Craft & Caro Lifestyle ทำความรู้จัก ‘การรังวัดที่ดิน’ พร้อมประโยชน์ ที่เจ้าของที่ดินควรรู้

ทำความรู้จัก ‘การรังวัดที่ดิน’ พร้อมประโยชน์ ที่เจ้าของที่ดินควรรู้

ทำความรู้จัก ‘การรังวัดที่ดิน’ พร้อมประโยชน์ ที่เจ้าของที่ดินควรรู้ post thumbnail image

สำหรับคนที่มีที่ดินไว้ในครอบครอง ควรรู้ไว้เลยว่าการรังวัดที่ดินมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะในอนาคตไม่ว่าเราจะซื้อขายที่ดิน หรือการแบ่งที่ดิน แยกโฉนด หรือได้รับมรดกที่ดิน ก็มีความจำเป็นจะต้องระบุขนาดที่ดินให้ตรงกับโฉนดที่ถือครองไว้ อีกเรื่องที่มีความสำคัญก็คือ หากเราไม่ตรวจสอบกำหนดแนวเขตให้ชัดเจน อาจทำให้ต้องเสียที่ดินบางส่วนไปโดยไม่ทันตั้งตัว

การรังวัดที่ดิน รวมถึงการแบ่งแยก การรวม การสอบเขตที่ดิน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ทำครั้งเดียวจบแล้วจบเลย เพราะหากปล่อยไว้นาน ๆ ไป หลักแนวเขตของเราอาจจมดินหายไป ถูกย้ายที่จนหาไม่เจอ หรือถูกย้ายที่ล้ำเข้ามาในเขตเรา ก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่อย่างแน่นอน แต่การรังวัดที่ดินทำอย่างไร มีขั้นตอนแบบไหน เรามีข้อมูลดี ๆ มาฝากกัน เพื่อเป็นการปกป้องสิทธิ์ในที่ดินของเรา มาทำความรู้จัก ‘การรังวัดที่ดิน’ พร้อมประโยชน์ที่เจ้าของที่ดินควรรู้

ทำไมต้องรังวัดที่ดิน?

การที่เราต้องทำรังวัดที่ดินของเราเองนั้น ก็เพื่อให้ทราบขนาดพื้นที่ ขนาดเนื้อที่ เพื่อความชัดเจน จะได้รู้ว่าที่ดินผืนที่เราครอบครอง มีขนาดความกว้างความยาวเท่าไหร่ มีเนื้อที่ทั้งหมดกี่ไร่ กี่งาน กี่ตารางวา จะได้ระบุถึงสภาพที่ดินว่าเป็นอย่างไร เช่น เป็นที่สวน เป็นที่นา ฯลฯ รวมถึงจะได้รู้ว่า ที่ของเราอยู่ติดกับที่ดินของใครบ้าง หรือมีเขตติดต่อกับที่สาธารณประโยชน์อื่น ๆ บ้างหรือเปล่า เพื่อจะได้บันทึกไว้ว่าตั้งอยู่ ณ ที่ไหน ตำบล อำเภอ หรือจังหวัดอะไร เพื่อเอาไว้ใช้ในการยืนยันสิทธิครอบครอง และแสดงความเป็นเจ้าของที่ดินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ประเภทการรังวัดที่ดินมีแบบไหนบ้าง

1. การรังวัดแบ่งแยก เมื่อเราจะแบ่งที่ดินผืนใหญ่ออกเป็นหลาย ๆ แปลง เพื่อประโยชน์ในการซื้อขาย การแบ่งมรดก หรือสาเหตุอื่น ๆ ต้องไปยื่นคำร้องขอรังวัดกับเจ้าหน้าที่ที่ดิน ขอออกโฉนดแปลงที่ดินแบ่งแยก

2. การรังวัดรวมโฉนด เป็นการวัดที่ดินในกรณีที่เราซื้อที่ดินที่อยู่ติดกัน แล้วต้องการรวมโฉนดให้เป็นที่ดินผืนเดียว ต้องไปยื่นคำร้องเพื่อขอรังวัดใหม่ เพื่อให้กรมที่ดินออกโฉนดแบบรวม

3. การรังวัดสอบเขต คือการขอรังวัดใหม่เพื่อตรวจสอบว่าเนื้อที่จริง ๆ ว่าตรงกับโฉนดหรือไม่ หรือกรณีหมุดแนวเขตหาย หาไม่เจอ ต้องยื่นคำร้องเพื่อขอรังวัดใหม่ แก้ไขเลขหลักหมุดในโฉนดให้ถูกต้อง

เอกสารในการขอรังวัดที่ดิน ต้องเตรียมอะไรบ้าง

เราสามารถยื่นคำขอได้ที่สำนักงานที่ดินจังหวัด สำนักงานที่ดินอำเภอ ที่ที่ดินของเราตั้งอยู่ พร้อมนำหลักฐานประกอบการขอรังวัดที่ดิน โดยมีขั้นตอนดังนี้

1. เอกสารส่วนตัว บัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส หลักฐานการเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล (ถ้ามี)

2. เอกสารสำหรับการรังวัดที่ดิน เช่น โฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ โดยมีรายละเอียด

  • เป็นหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ประเภทเดียวกัน ยกเว้นโฉนดแผนที่กับโฉนดที่ดินให้รวมกันได้
  • มีชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินในโฉนดที่ดินตรงกันทุกฉบับ และยังมีชีวิตอยู่
  • ที่ดินต้องเป็นผืนเดียว ตั้งอยู่ในจังหวัด หรือสำนักงานที่ดินเดียวกัน

ขั้นตอนการขอรังวัดที่ดิน ทำอย่างไร

  1. รับคำขอสอบสวน ที่สำนักงานที่ดิน พร้อมชำระค่าธรรมเนียม
  2. ฝ่ายรังวัดนัดหมาย พร้อมแจ้งจำนวนเงินมัดจำในการรังวัด พร้อมทำหนังสือแจ้งเจ้าของที่ดินผืนข้างเคียง
  3. ฝ่ายรังวัดดำเนินการรังวัด คำนวณพื้นที่ เขียนรูปแผนที่ในโฉนดที่ดิน ส่งเรื่องต่อให้ฝ่ายทะเบียน
  4. ฝ่ายทะเบียนดำเนินการ จดทะเบียนแบ่งแยก ตรวจอายัด พร้อมชำระค่าธรรมเนียม
  5. จัดทำโฉนดที่ดิน เจ้าพนักงานที่ดินลงนามและประทับตรา
  6. มอบโฉนดที่ดิน หากเป็นกรณีรังวัดแบ่งแยก เจ้าหน้าที่จะมอบโฉนดที่ดินให้ครบทุกคนตามรายชื่อ

ประโยชน์ของการรังวัดที่ดิน

1. ช่วยให้เราได้รับรู้ขนาดที่ดิน แนวเขตการครอบครองที่ดิน และมีเอกสารรับรองที่ครบถ้วนถูกต้องจากราชการ

2. ช่วยป้องกันการเสียกรรมสิทธิ์ครอบครอง ที่อาจจะเกิดมาจากสาเหตุการรุกล้ำที่ดิน รุกล้ำพื้นที่ การเลื่อนเขตหมุดที่ดิน การทำลายหมุด หรือหมุดหาย

3. ป้องกันการถูกรอนสิทธิ์ เช่น การใช้ที่ดินของเราเป็นทางเข้าออก

4. ป้องกันไม่ให้เส้นทางสาธารณะรุกล้ำเข้ามาในที่ดิน เช่น คลอง ห้วย ถนน ฯลฯ เพราะหากปล่อยไว้จะทำให้เสียพื้นที่ออกไปโดยไม่รู้ตัว

5. ป้องกันปัญหาทับซ้อนของเขตที่ดิน หรือการเหลื่อมซ้อนของแนวที่ดินผืนอื่นที่มีแนวเขตติดต่อกัน

ข้อควรรู้ขณะรังวัดที่ดิน

  • ควรบันทึกภาพ ถ่ายภาพการรังวัด หรือภาพแนวเขตต่าง ๆ เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน ใช้ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หากมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เพื่อนำไปใช้ยืนยันแนวเขตที่ดิน จุดปักหมุดเขตที่ดิน รวมทั้งป้องกันไม่ให้สูญเสียที่ดินโดยไม่รู้ตัว
  • ก่อนทำนิติกรรมที่ดิน จำเป็นต้องให้สำนักงานที่ดินรังวัดที่ดิน เพื่อเป็นการตรวจสอบแนวเขต จำนวนที่ดิน ให้ตรงตามโฉนด ควรทำการรังวัดทุก ๆ 10 ปี เพื่อประโยชน์ของเราเอง และความถูกต้อง เป็นการป้องกันการที่คนอื่นมาอ้างครอบครองปรปักษ์ในที่ดินของเรา

สำหรับผู้เป็นเจ้าของที่ดิน ควรรู้ไว้เลยว่าการรังวัดที่ดินเป็นเรื่องสำคัญ ที่ไม่ควรปล่อยปละละเลย หากไม่ได้ทำการรังวัดพื้นที่จริง พอนาน ๆ ไป ที่ดินบางส่วนของเรากลายเป็นของคนอื่น ก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ตามมา เจ้าของที่ดินที่ไม่ได้ทำการรังวัดมานาน แนะนำให้รีบไปดำเนินการ เพื่อป้องกันการเสียกรรมสิทธิ์ในการครอบครองที่ดิน ใครที่อยากได้ข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับเรื่องที่ดินเพิ่มเติมแนะนำให้เข้าไปที่เว็บไซต์ DDproperty.com เว็บไซต์มาร์เก็ตเพลส ด้านอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย ได้รวบรวมข้อมูลประกาศซื้อ-ขาย-เช่า ที่น่าสนใจ ทั้งโครงการใหม่และบ้านมือสอง ในหลากหลายทำเลครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมเป็นแหล่งรวมความรู้ที่น่าสนใจ และเป็นประโยชน์ในการซื้อ-ขาย-เช่า เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการตัดสินใจซื้อ ให้ผู้ที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง สามารถเลือกที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ได้มากที่สุด

Related Post

ข้อดีของการใช้คลีนซิ่งมิลค์ หรือคลีนซี่งน้ำนมข้อดีของการใช้คลีนซิ่งมิลค์ หรือคลีนซี่งน้ำนม

สาวๆ ที่รักการแต่งหน้า ที่ใช้รองพื้น หรือBB ครีมซองต้องอ่านบทความนี้เลย เพราะบทความนี้เราจะมาพูดคุยเกี่ยวกับข้อดีของการใช้คลีนซิ่งมิลค์ หรือคลีนซี่งน้ำนมกัน ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่าการใช้รองพื้น หรือBB ครีมซองเซเว่นถูกและดีไม่สามารถล้างออกได้ด้วยน้ำเปล่า เพราะการใช้รองพื้น หรือBB ครีมซองนั้นเปรียบเสมือนสารเคลือบผิว ที่เคลือบหรือฉาบลงบนผิวแบบหนาๆ ดังนั้น หากล้างสารเคลือบผิว ที่เคลือบหรือฉาบลงบนผิวแบบหนาๆ เหล่านี้ออกไม่หมด สารเคลือบผิว ที่เคลือบหรือฉาบลงบนผิวแบบหนาๆ เหล่านี้จะไปอุดตันลงในผิวจนก่อเกิดเป็นสิวแน่นอน รวมข้อดีของการใช้คลีนซิ่งมิลค์ หรือคลีนซี่งน้ำนม ข้อดีของการใช้คลีนซิ่งมิลค์ หรือคลีนซี่งน้ำนม คือ คลีนซิ่งมิลค์ มีส่วนผสมของน้ำมัน สามารถชะล้างสิ่งสกปรกและตกค้างได้ดีกว่าน้ำ ข้อดีของการใช้คลีนซิ่งมิลค์

ขนส่งสินค้าแช่เย็น

เรื่องน่ารู้ก่อนใช้บริการ ขนส่งสินค้าแช่เย็น มีการส่งด้วยตู้เก็บความเย็นแบบไหน?เรื่องน่ารู้ก่อนใช้บริการ ขนส่งสินค้าแช่เย็น มีการส่งด้วยตู้เก็บความเย็นแบบไหน?

ในปัจจุบันนี้ด้วยการนำเสนอโซลูชั่น ที่นำมาประสมผสานกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ จึงทำให้การ ขนส่งสินค้าแช่เย็น ง่ายขึ้น  ไม่ว่าคุณอยากจะส่งสินค้าประเภทไหนเช่น…ขนม อาหารที่ต้องการแช่เย็น สินค้าสุขภาพที่จะต้องรักษาอุณหภูมิให้มีความเย็นตลอดเวลา ก็สามารถทำได้ผ่านการเลือกผู้ให้บริการที่มีการขนส่งสินค้าแช่เย็นที่มีคุณภาพ แต่คุณสงสัยหรือไม่ว่า การส่งสินค้าแช่เย็นนี้มีการจัดเก็บความเย็นระหว่างการขนส่งแบบไหน เราก็ได้นำความรู้ดี ๆ มานำเสนอกันแล้ว บริการ ขนส่งสินค้าแช่เย็น ด้วยคอนเทนเนอร์แบบพิเศษ สำหรับการ ขนส่งสินค้าแช่เย็น จะมีการจัดส่งด้วยตู้คอนเทนเนอร์ชนิดพิเศษ ที่จะมีการกักเก็บความเย็นและหล่อเลี้ยงความเย็นไว้ภายใน ซึ่งในปัจจุบันนิยมใช้ตู้ 2 รูปแบบ ได้แก่… 1. va-Q-tainer USx คอนเทนเนอร์

ประกันรถยนต์ 3+ คืออะไร เหมาะสำหรับใครประกันรถยนต์ 3+ คืออะไร เหมาะสำหรับใคร

ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจนั้นประกอบด้วยประกันหลายประเภท และประกันรถยนต์ 3+ ก็เป็นหอีกหนึ่งประเภทของประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ ซึ่งอาจจะเป็นประกันที่จะคอยคุ้มครองเราและรถคู่ใจในระยะเวลาสุดท้ายของชีวิตก็เป็นได้ ดังนั้นเราขึงควรศึกษาและทำความรู้จักกับประกันรถยนต์ประเภทนี้เอาไว้ก่อน ประกันภัยรถยนต์ 3+ คือประกันรถยนต์มากสมัครใจประเภทที่ 3 ที่มีเงื่อนไขความคุ้มครองเพิ่มเติมนอกเหนือไปจากแผนการคุ้มครองแบบดั้งเดิม ซึ่งอย่างที่เราทราบกันดีนั้นว่าประกันรถยนต์ 3 มีความคุ้มครองน้อยและไม่ค่อยครอบคลุมจึงมีการเพิ่มเงื่อนไขความคุ้มครองที่จำเป็นเข้าไปทำให้เกิดเป็นประกันรถยนต์ 3+ ซึ่งจะเป็นแผนประกันที่มีเงื่อนไขความคุ้มครองครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ประกันรถยนต์ 3+ จะให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์คันเอาประกันในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุชนกับรถหรือยานพาหนะทางบกอื่นๆ หรืออุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี คุ้มครองความเสียหายต่อร่างกายหรือชีวิตและความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอกหรือคู่กรณีที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุที่เราเป็นฝ่ายผิด รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลต่างๆ ของผู้เอาประกันภัยและผู้โดยสารที่โดยสารไปกับผู้เอาประกันภัย คุ้มครองประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล รวมไปถึงการประกันตัวผู้ขับขี่ในกรณีที่มีการดำเนินคดีทางอาญา ประกันรถยนต์ 3+ ไม่ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่ตัวรถของเราได้รับในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณีหรือไม่ได้ชนกับยานพาหนะทางบกอื่นๆ เช่น การชนสิ่งกีดขวาง